THE GEMS PAVILION’S BLOG

จากความสำเร็จของคอลเล็กชั่น The Emblem ที่ Gems Pavilion (เจมส์ พาวิลเลี่ยน) สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพื่อฉลองครบรอบปีที่ 22 ของการก่อตั้งแบรนด์ มาในครั้งนี้ ความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของไอคอนโลโก้สัญลักษณ์ประจำจากเจมส์ พาวิลเลี่ยนถูกนำเสนอผ่านเครื่องประดับจิวเวลรี่อีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ได้รับการต่อยอดมาจากดิ เอ็มเบลม ภายใต้ชื่อคอลเล็กชั่นใหม่The Emblem EXT. (The Emblem Extension – ดิ เอ็มเบลม เอ็กเทนชั่น) การคงไว้ซึ่งความเป็นไฟน์ จิวเวลรี่ในทุกๆ รายละเอียดที่เริ่มตั้งแต่การออกแบบอันโดดเด่น วัตถุดิบคุณภาพสูง และงานฝีมือสุดประณีต คือสิ่งที่เจมส์ พาวิลเลี่ยนยังคงยึดมั่นและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าตลอดทั้ง 22 ปีแห่งการสร้างสรรค์ เราเป็นแบรนด์จิวเวลรี่ไทยที่ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาและแสวงหาความแปลกใหม่น่าสนใจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความงดงามระดับไฟน์ จิวเวลรี่มานำเสนอลูกค้าอยู่เสมอ จากปรัชญาของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงการเฉลิมฉลองให้กับทุกวันด้วยเครื่องประดับ Fine Jewellery ระดับมาสเตอร์พีซที่ทีมดีไซน์ของแบรนด์ที่นำทีมโดย คุณหนึ่ง – จนิษฐา ธีรวรชัย ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เจมส์ พาวิลเลี่ยน ผู้ที่รับผิดชอบดูแลการออกแบบและพัฒนาเครื่องประดับจิวเวลรี่ของบริษัทตั้งใจนำเสนอโดยให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิต เริ่มตั้งแต่ความโดดเด่นในงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์พร้อมทั้งเลือกใช้วัตถุดิบที่ผ่านการเฟ้นหาและคัดเลือกอย่างพิถีพิถันก่อนที่จะนำส่งเข้าสู่กรรมวิธีการผลิตที่ละเอียดลออโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญการเพื่อพัฒนาให้ทุกขั้นตอนในการสร้างสรรค์ชิ้นงานทุกชิ้นในคอลเล็กชั่นมีความสมบูรณ์แบบที่สุด คอลเล็กชั่นดิ เอ็มเบลม เอ็กเทนชั่น ยังคงให้ความสำคัญและเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เครื่องประดับทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นแหวนเพชรและต่างหูล้วนแต่นำเอาเพชรทรงมาร์คีส์มาร้อยเรียงประกอบกันเป็นเครื่องประดับอันงดงามดังที่เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วใน ดิ เอ็มเบลม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่เน้นการสร้างสรรค์ให้ผู้สวมใส่ได้มีความรู้สึกภูมิใจที่ได้สวมใส่เครื่องประดับระดับ Iconic เพื่อความเป็น Iconic ของผู้สวมใส่เช่นกัน โอกาสพิเศษครั้งนี้ถูกสะท้อนผ่านผลงานการสร้างสรรค์ออกแบบชิ้นงานใหม่ ให้มีความโดดเด่น สวยงามและสะดุดตายามสวมใส่ ทั้งยังมีความสนุกเพิ่มเติมลงบนตัวชิ้นงานมากขึ้นด้วยโดยยังความสวยหรูสุดคลาสสิกไว้ได้อย่างเช่นเดิม เป็นการต่อยอดเพื่อเติมเต็มให้ดิ เอ็มเบลม เป็นดั่งเหมือนคอลเล็กชั่นเครื่องเพชรคู่ใจของหญิงสาวสุดหรูที่ทุกคนต้องมีและรู้สึกหลงรักยามได้สวมใส่ โดยชิ้นงานต่างๆ ในคอลเล็กชั่นนี้เกิดจากการนำเอาเพชรทรงมาร์คีส์ ทรงอัชเชอร์และทรงกลม มาต่อกันจนดูเป็นโลโก้ไอคอนที่มีขนาดที่ลดหลั่นแตกต่างกันไปโดยมีจุดเด่นอยู่ที่ลูกเล่น การจัดวางเรียงเพชรและฟังก์ชั่นของแต่ละชิ้นที่สามารถถอดประกอบเพื่อทำให้การใส่จิวเวลรี่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ต่างหูเพชรที่สามารถนำ Backing ไปใช้กับต่างหูติดหูคู่อื่นได้หรือแหวนและต่างหูที่ออกแบบจัดวางโดยตั้งใจเล่นกับรูปทรงทันสมัยดูมีมิติยามสวมใส่ในทุกองค์ประกอบของคอลเล็กชั่นนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่เพชรทรงมาร์คีส์ซึ่งถือเป็นเพชรทรงที่หาได้ไม่ง่ายนักทำให้แต่ละชิ้นงานต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการคัดสรรวัตถุดิบเพื่อให้ได้เพชรที่ตรงกับความต้องการของทีมดีไซน์ และได้ตามมาตรฐานของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ก่อนจะนำมาเข้าขั้นตอนการผลิตอันพิถีพิถันในทุกขั้นตอนที่แม้จะดูเป็นชิ้นงานที่เรียบแต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้องอาศัยประสบการณ์การทำงานของช่างฝีมือที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาโดยตลอด จิวเวลรี่ทุกชิ้นในคอลเล็กชั่น The Emblem ยังคงเน้นย้ำถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีโดยแสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจในงานดีไซน์ที่เป็นต้นแบบจิวเวลรี่เทรนด์และเป็นเอกลักษณ์ของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ซึ่งต้องใช้เวลาในการคัดสรรวัตถุดิบและผ่านการสร้างสรรค์จากช่างฝีมือผู้ชำนาญการเพื่อสร้างผลงานเครื่องประดับทุกชิ้นให้สมบูรณ์แบบที่สุดและตอบรับกับความเป็นเครื่องประดับระดับตำนานเพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกวันพิเศษของผู้สวมใส่ได้ตลอดไป ร่วมสัมผัสเครื่องประดับระดับไอคอนแห่งความภาคภูมิใจไปกับแบรนด์จิวเวลรี่ไทยอย่าง เจมส์ พาวิลเลี่ยน ได้แล้ววันนี้

สวมแหวนอย่างไรให้ดูโดดเด่นตามตำรา เครื่องประดับชิ้นเด่นที่สวยดูดีเพียงแค่ปลายนิ้ว นั่นก็คือ แหวน หลายๆ คนที่กำลังเล็งหาเครื่องประดับชิ้นนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มจากอะไรยังไงก่อนดี ควรใส่แหวนแบบไหนดี หรือใส่แหวนตามวันเกิดนิ้วไหนดี เรามีตัวช่วยอย่างตำราโหราศาสตร์ที่จะมาเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการตัดสินใจว่าถ้าจะเลือกซื้อหาแหวนเพชรแท้สวยๆ มาใส่สักวง ควรเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดี แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า นี่คือตำราสายมู ที่เน้นเรื่องการเสริมดวง เสริมโชคเป็นหลัก เพราะฉะนั้นลองพิจารณาเลือกหาตามความชอบ และความเชื่อล้วนๆ เคล็ดลับที่ 1 เลือกมือ เลือกนิ้ว สำหรับเลือกใส่แหวนที่มือข้างซ้าย  นิ้วโป้ง – ช่วยเรื่อง คนอุปถัมภ์ นิ้วชี้ – เสริมอำนาจและความเป็นผู้นำ นิ้วกลาง – ช่วยในการป้องกันเรื่องไม่ดี นิ้วก้อย – เสริมดวงเรื่องความรัก สำหรับเลือกใส่แหวนที่มือข้างขวา นิ้วชี้ – ช่วยเรื่องคนเมตตาและเอ็นดู นิ้วกลาง – เสริมเรื่องการเงินให้คล่องตัว นิ้วนาง – ช่วยเรื่องการงานให้ปังและดังกว่าใคร นิ้วก้อย – ช่วยในเรื่องเสน่ห์ดึงดูด เคล็ดลับที่ 2 รวมวิธีใส่แหวนเรียกทรัพย์ ชี้เงินได้เงิน ชี้ทรัพย์ได้ทรัพย์! วิธีนี้จะเฉพาะเจาะจงมากกว่า โดยลงลึกไปถึงวันเกิดของคนสวมใส่เป็นหลัก คนเกิดวันอาทิตย์ – เป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง มีน้ำใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่น ควรเน้นการสวมแหวนเกลี้ยงไม่มีลวดลาย ขอบตัดตรง สวมแหวนที่นิ้วกลางข้างซ้าย หรือ สวมนิ้วกลางข้างขวา คนเกิดวันจันทร์ – เป็นคนที่มีศิลปะในการสนทนาและช่างพูดช่างคุย เน้นการเสริมดวงด้วยสวมแหวนเกลี้ยงลักษณะบางๆ หรือแหวนที่มีหัวแหวนเล็ก สวมนิ้วนางข้างขวา หรือ สวมนิ้วชี้ข้างขวา คนเกิดวันอังคาร – เน้นสวมแหวนตามวันเกิดที่มีหัวแหวนใหญ่ หรือ แหวนปลอกมีดแบบกลม สวมนิ้วกลางข้างซ้าย หรือ สวมนิ้วกลางข้างขวา คนเกิดวันพุธ – มีนิสัยขยันขันแข็งและมีความรอบรู้อยู่แล้ว ควรใส่เครื่องประดับเพื่อเสริมความเป็นผู้นำ โดยเน้นสวมแหวนเกลี้ยงขอบตัดตรง ขนาดพอดีกับนิ้วมือ สวมนิ้วกลางข้างซ้าย หรือ สวมนิ้วก้อยข้างขวา คนเกิดวันพฤหัสบดี – พื้นดวงเป็นคนที่ซื่อสัตย์ ละเอียดรอบคอบ และมีความรับผิดชอบสูง เน้นสวมแหวนเกลี้ยงที่มีขนาดใหญ่และหนาสักเล็กน้อย สวมนิ้วกลางข้างซ้าย หรือ สวมนิ้วกลางข้างขวา คนเกิดวันศุกร์ – ด้วยความที่เป็นคนที่มีจินตนาการสูงและมีความคิดสร้างสรรค์โดดเด่น อีกทั้งยังเป็นที่รักของทุกคน แถมยังรักสวยรักงามอีกด้วย ควรเน้นสวมแหวนเหลี้นงแบบกลม ขนาดพอดีกับนิ้วมือ สวมนิ้วชี้ข้างซ้าย หรือ สวมนิ้วนางข้างขวา คนเกิดวันเสาร์ – คนเกิดวันนี้เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูง และเป็นคนที่ฉลาดและเรียนรู้ได้ไว ควรสวมแหวนปลอกมีดแบบกลมที่มีขนาดใหญ่สักเล็กน้อย สวมนิ้วกลางข้างซ้าย หรือ สวมนิ้วนางข้างขวา ทั้งนี้ทั้งนั้น แน่นอนว่าการเลือกและลองใส่แหวนตามวันเกิดให้เหมาะกับตัวเองและความชอบคือสิ่งที่น่าจะมาเป็ยนอันดับต้นๆ ในการตัดสินใจเลือกแหวนสักวง แต่ถ้ามีเรื่องของความเชื่อเข้ามาเสริม ก็น่าจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจขึ้นในการสวมใส่เครื่องประดับคู่กายให้กลายเป็นเครื่องประดับคู่ใจ

เครื่องประดับ fine jewelry ที่มากด้วยเอกลักษณ์ช่วยให้วันธรรมดากลายเป็นวันพิเศษได้ และช่วยให้ทุกคนสามารถเปล่งประกายในแบบของตัวเอง… นี่คือปรัชญาที่เจมส์ พาวิลเลี่ยน (Gems Pavilion) ยึดมั่นเสมอมา ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปีพ.ศ. 2539 ในฐานะแบรนด์เครื่องประดับไฟน์จิวเวลรี่ของเมืองไทย และปรัชญานี้ก็สะท้อนก้องอยู่ในผลงานการออกแบบทุกคอลเลคชั่นของแบรนด์ รวมทั้งคอลเลคชั่นล่าสุดในชื่อ The Twinkle ที่เน้นประกายความงามของเพชรโดยเฉพาะ ด้วยแรงบันดาลใจจากการเรียงตัวของหมู่ดาวในห้วงจักรวาลอันยิ่งใหญ่ คอลเลคชั่น The Twinkle อวดความงามของเพชรทรงแอชเชอร์และเพชรทรงปริ้นเซสที่เจียระไนอย่างประณีตเปรียบเสมือนประกายระยิบระยับของดวงดาวในอวกาศ ประกายของเหลี่ยมเพชรนี้ทอแสงวิบวับล้อไปกับเส้นสายแบบร่วมสมัยของจิวเวลรี่ที่มีทั้งแหวนและต่างหูราวกับเส้นสายในห้วงจักรวาล ชวนให้นึกถึงประกายดาวที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืดของห้วงอวกาศ ที่ให้อารมณ์สวยงาม ลึกลับและน่าค้นหาไปพร้อมๆ กัน คอลเลคชั่น The Twinkle จากเจมส์ พาวิลเลี่ยน ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงยุคใหม่ที่ชอบความแตกต่าง มองหาลุคใหม่ที่ไม่จำเจ และเลือกที่จะเปล่งประกายในแบบของตัวเอง จิวเวลรี่ในคอลเลคชั่นนี้ที่มีทั้งต่างหูและทรงแหวนเพชรหลากรูปแบบออกแบบมาให้เลือกมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าให้เข้ากับทุกวาระและโอกาส ตั้งแต่วันลำลอง วันทำงานไปจนถึงงานดินเนอร์สุดหรู โดยมีทั้งต่างหูระย้าประดับเพชรทรงแอชเชอร์และทรงปริ้นเซสที่สามารถถอดแยกเป็นเส้นเดี่ยวได้ รวมถึงต่างหูทรงหมู่ดาวที่จะใส่เรียงกันเป็นแถวหรือจะใส่แยกก็ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับลุคได้อย่างดี ส่วนแหวนนั้นเน้นอวดความงามของเพชรทรงแอชเชอร์เม็ดใหญ่ที่วางตัวอยู่บนตัวเรือนทรงเพรียวบางแบบชั้นเดียวหรือเล่นเลเยอร์ ทอแสงเป็นประกายวิบวับทุกการเคลื่อนไหว โดยนอกจากจะมีแบบแหวนสำหรับนิ้วกลางและนิ้วนางแล้ว คอลเลคชั่นนี้ยังมีแหวนวงเล็กสำหรับใส่แหวนเพชรนิ้วก้อยให้เลือกสวมใส่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับลุคอีกด้วย ตัวเรือนมีให้เลือกทั้งแบบไวท์โกลด์และพิ้งค์โกลด์ที่ดูเรียบหรูและโดดเด่น คอลเลคชั่นนี้จะเน้นความเพรียวและเบา จิวเวลรี่ทุกชิ้นในคอลเลคชั่น The Twinkle ถูกสร้างสรรค์ขึ้นอย่างประณีตโดยช่างฝีมือของเจมส์ พาวิลเลี่ยน และเลือกใช้แต่เพชรที่มีคุณภาพสูงสุดเท่านั้น เมื่อดีไซน์แบบร่วมสมัยโคจรมาพบกับคุณภาพและงานหัตถศิลป์ ผลที่ได้จึงเป็นจิวเวลรี่ที่งดงามและมีคุณค่าเหนือกาลเวลาใดๆ อีกทั้งเป็นหนึ่งในเครื่องเพชรที่ต้องมี เปล่งประกายและโดดเด่นเกินใครด้วยความสวยงาม อีกทั้งมีความสุขกับการใช้ชีวิตไปพร้อมกับ The Twinkle คอลเล็กชั่น จิวเวลรี่เทรนด์เครื่องประดับใหม่ล่าสุดจาก Gems Pavilion ได้แล้ววันนี้

เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้รับประสบการณ์สุดพิเศษจาก เจมส์ พาวิลเลี่ยน อย่างต่อเนื่องไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เราจึงตั้งใจจัดทำคู่มือการดูแลและรักษาเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่จะช่วยให้เครื่องประดับล้ำค่าของคุณเปล่งประกายอยู่เสมอ และเป็นสิ่งที่จะเป็นตัวแทนแห่งการเฉลิมฉลองให้กับความงดงามของชีวิตให้กับคุณไปตราบนานเท่านาน ความรู้ทั่วไป โดยทั่วไปแล้ว ความทนทานของอัญมณีจะขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลัก นั่นคือความแข็ง (hardness) และความเหนียว (toughness) ซึ่งความหมายก็อาจจะไม่ได้ตรงตัวสักเท่าไหร่ และทำให้คนมักสับสนกัน ความแข็งที่ว่านี้หมายถึงความสามารถในการรักษาความเรียบเนียนของผิวเนื้ออัญมณีไว้ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ความเหนียวของตัวอัญมณีก็คือการที่สามารถทำให้ตัวเนื้อในของอัญมณีสามารถทนรับแรงกระแทกไม่ให้เกิดการแตกหัก หรือเป็นรอยร้าว ซึ่งความเหนียวทนทานที่กล่าวมานั้นมีตั้งแต่ระดับที่ดีเลิศ ดีเยี่ยม ดี ปกติ  ไพลิน ทับทิม และตระกูลซัพไฟร์ทุกสีอัญมณีทั้งหลายเหล่านี้ได้คะแนน Mohs scale (คะแนนวัดระดับความแข็งแกร่งของอัญมณี) ในระดับที่ 9/10 ความแข็งแกร่งเป็นรองจากเพชร โดยมีความเหนียวทนที่ดีเยี่ยมและไม่มีการแตกหัก การดูแลรักษาเครื่องประดับเพชร เกร็ดความรู้: เพชรจะหลอมละลายที่ระดับความร้อน 850 องศาเซลเซียส ซึ่งอุบัติเหตุไฟไหม้บ้านสามารถก่อให้เกิดอุณหภูมิในระดับดังกล่าวได้ การเก็บรักษาเพชรไว้ในตู้เซฟสามารถป้องกันได้ในระดับที่ 1,200 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้นได้ เราจึงแนะนำให้คุณลองติดต่อสอบถามการหาตู้เซฟมาไว้เก็บเครื่องประดับล้ำค่าของคุณ หรือติดต่อที่เจมส์ พาวิลเลี่ยน เพื่อขอคำแนะนำได้ ขั้นตอนการทำความสะอาดเครื่องประดับจิวเวลรี่โดยทั่วไป ขั้นตอนแรก ทำความสะอาดเครื่องประดับเพชรแยกกัน ชิ้นต่อชิ้น สำหรับเพชร ไพลิน ทับทิมและอัญมณีชนิดต่างๆ: ใส่น้ำลงในภาพาชนะและผสมสบู่ลงไปเล็กน้อย นำเครื่องประดับลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที สำหรับไข่มุกและมรกต:  ใส่น้ำลงในพาชนะ (โดยไม่ต้องผสมสบู่ลงไป เนื่องจากไข่มุกและมรกตไม่เหมาะกับการใช้สารเคมีต่างๆ ในการทำความสะอาด) นำเครื่องประดับลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที ขั้นที่สอง ใช้แปรงขนนุ่ม หรือใช้แปรงขัดล้างทำความสะอาดเครื่องประดับเพชร แหวนเพชร โปรดแน่ใจว่าได้ทำความสะอาดครบทุกซอกมุมของตัวเรือน ขั้นที่สาม ล้างทำความสะอาดเพชรและแหวนเพชร ด้วยน้ำเปล่าโดยใช้พาชนะรองรับไว้ด้วยเพื่อป้องกันการหล่นหาย นำเครื่องประดับจุ่มลงในน้ำทั้งตัวเรือน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าล้างคราบสบู่ออกจนหมด ขั้นที่สี่ ในขั้นตอนสุดท้ายนี้คือการเช็ดทำความสะอาดเครื่องประดับด้วยผ้าเรียบสะอาดผิวนุ่มและเป่าให้แห้งด้วยไดร์เป่าผม เมื่อเครื่องประดับแห้งสนิทเป็นที่เรียบร้อย พร้อมนำไปเก็บรักษาไว้ในกล่อง รอวันหยิบนำมาสวมใส่อีกครั้ง  *เครื่องทำความสะอาดแบบอัลตราโซนิกควรใช้โดยผู้ชำนาญการเท่านั้น เพราะอาจจะกระทบต่อตัวเรือน ทำให้ตัวเรือนมีความหลวมได้ การดูแลทั่วไป เครื่องประดับอัญมณีทุกชนิดควรหลักเลี่ยงการเก็บวางไว้บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ และเมื่อไม่ได้สวมใส่ควรแยกเก็บไม่ปะปนกันเพื่อป้องกันการขีดข่วน เก็บรักษาเครื่องประดับอัญมณีให้ห่างไกลจากสารเคมี และสวมใส่เครื่องประดับอัญมณีเป็นชิ้นสุดท้ายเสมอหลังจากแต่งหน้าหนังและทำผมเรียบร้อยแล้ว ตรวจเช็คสภาพของเครื่องประดับอัญมณีทุกครั้งหลังการสวมใส่ ควรแน่ใจทุกครั้งว่าการสวมใส่เครื่องประดับของคุณมีความปลอดภัยและถูกต้องตามการใช้งาน เช่นการสวมใส่ต่างหูที่ต้องมั่นใจว่าสวมใส่และล็อคเข้ากับแป้นต่างหูอย่างแน่นหนาและแม่นยำเพื่อป้องกันการตกหล่นหรือสูญหาย ข้อควรระวัง: หลังจากสวมใส่เครื่องประดับอัญมณีไปสักพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่างหู ตัวก้านและแป้นอาจจะหลวมขึ้น เพราะเนื่องจากทำมาจากทองคำซึ่งมีความยืดหยุ่นเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยเหตุผลนี้ จึงมีความสำคัญมากที่คุณจะต้องส่งกลับให้ทาง Gems Pavilion ช่วยตรวจสอบและดูแลให้ตามระยะการใช้งาน เคล็ดลับเพิ่มเติม: เพื่อป้องกันการสูญหายที่อาจเกิดขึ้นได้ พยายามอย่าถอดแหวนของคุณในขณะที่ล้างมือข้างนอกที่พักอาศัย การดูแลรักษาเครื่องประดับไข่มุก ควรสวมใส่เครื่องประดับไข่มุกเป็นอย่างสม่ำเสมอ เพราะว่าผิวของมนุษย์มีน้ำมันที่ช่วยเก็บความชุ่มชื้นให้กับไข่มุก การเก็บเครื่องประดับไข่มุกไว้ในกล่องนานๆ อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ไข่มุกดูแห้งไม่เปล่งประกาย อย่านำสร้อยไข่มุกแช่ลงในน้ำเป็นเวลานานๆ เพราะจะทำให้เส้นไหมที่ร้อยสร้อยเปื่อยและขาดได้ ห้ามทำความสะอาดไข่มุกโดยไอน้ำหรือเครื่องทำความสะอาดแบบอัลตราโซนิกโดยเด็ดขาด เพราะทั้งสองวิธีนี้จะทำลายเนื้อภายนอกของไข่มุกได้ ให้ใช้ผ้าเนื้อนุ่มในการเช็ดทำความสะอาดก็เพียงพอแล้ว  ข้อควรรู้: สร้อยคอไข่มุกควรได้รับการร้อยใหม่ในทุกๆ ปี (ที่ เจมส์  พาวิลเลี่ยน เราสามารถให้บริการดังกล่าวนี้ได้) การดูแลรักษามรกต เครื่องประดับมรกตอาจจะต้องการการทาน้ำมันภายในหลังจากใช้งานผ่านไปหลายปี และในขั้นตอนนี้ควรได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ควรดูแลเครื่องประดับมรกตเป็นอย่างดีด้วยการห่อกระดาษหรือหุ้มด้วยฟองน้ำก่อนการเก็บรักษา ข้อควรรู้: เครื่องประดับมรกตที่ค้าขายกันในปัจจุบันส่วนใหญ่กว่า 99% มักจะเคลือบทาน้ำมันซีดาร์ออยล์ แต่ที่ เจมส์ พาวิลเลี่ยน เราเลือกใช้มรกตที่มีน้ำมันเคลือบน้อยที่สุด ซึ่งทำให้มีความสวยงามต่อไปได้อย่างไม่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม การดูแลเครื่องประดับจิวเวลรี่ พลอยและหินล้ำค่า เครื่องประดับจิวเวลรี่ พลอยและหินล้ำค่ามีระดับความแข็งแกร่งระดับ 7 ในมาตรการวัดแบบ Mohs  scale ซึ่งมักจะมีฝุ่นเกาะติดได้ง่าย ยกตัวอย่างเช่น หินควอรตซ์ ที่มีระดับคะแนน Mohs scale ที่ 7/10 นั้นมักจะถูกฝุ่นจับเกาะ ซึ่งต้องได้รับการล้างน้ำทำความสะอาดเพื่อขจัดคราบฝุ่น ตารางการทำความสะอาดเครื่องประดับจิวเวลรี่ นำเครื่องประดับของคุณมาทำความสะอาดที่ร้านเมื่อครบกำหนด ดังนี้  ไข่มุก เพชร มรกต ทับทิม ไพลิน พลอยและหินล้ำค่า ทุกๆ 6 เดือน 1 ครั้งต่อปี