60% ของผู้ชายที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์มองว่า ‘การเลือกแหวนหมั้นและแหวนแต่งงาน’ เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในพิธีแต่งงาน เพราะต้องใช้เวลานานถึง 3 เดือน และเข้าร้านเพชรอย่างน้อย 7 ร้าน กว่าจะได้แหวนที่ถูกใจ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ช่วยคุณได้ หนึ่งในข้อสรุปจากงานวิจัยข้างต้นนี้แสดงให้เห็นว่า คู่บ่าวสาวให้ความสำคัญและทุ่มเทเวลากับการเลือกแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานเป็นอย่างมาก ทว่าคู่รักส่วนใหญ่กลับไม่รู้ถึงหลักการเลือกแหวนที่ตนเองกำลังตามหา แต่จะดีกว่าไหม หากมีวิธีที่ช่วยให้คุณได้แหวนแต่งงานที่ตอบโจทย์ความต้องการ และช่วยประหยัดเวลาได้มากที่สุด? ในวันนี้เราพร้อมมอบข้อมูลที่จะช่วยไขข้อสงสัยและเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน เพื่อช่วยให้การเลือกแหวนแต่งงานในวันสำคัญของคุณไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แหวนแต่งงานและแหวนหมั้นต่างกันอย่างไร? มีคนจำนวนไม่น้อยเข้าใจว่าทั้งแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานคือวงเดียวกัน นั่นอาจเป็นความเข้าใจส่วนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วยังมีข้อสังเกตที่น่าสนใจตามธรรมเนียมของแต่ละประเทศ ดังนี้ แหวนหมั้น วัฒนธรรมไทย – แหวนหมั้นคือแหวนที่ใช้ระหว่างพิธีหมั้น โดยปกติแล้วแหวนหมั้นจะเน้นความหรูหราและมีลักษณะเป็น ‘แหวนเพชรที่มีเพชรเด่นอยู่ตรงกลางหรือแหวนเพชรเดี่ยว’ วัฒนธรรมตะวันตก – แหวนหมั้นจะเปรียบเสมือนเป็นแหวนขอแต่งงาน แหวนแต่งงาน วัฒนธรรมไทย – บางคู่เลือกให้แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานเป็นแหวนวงเดียวกัน บางคู่มีแหวนแต่งงานอีกวงหนึ่งที่เอาไว้ใส่ในชีวิตประจำวัน และจะไม่ได้ใส่แหวนหมั้นและแหวนแต่งงานซ้อนทับกันในนิ้วเดียวกัน วัฒนธรรมตะวันตก – แหวนแต่งงาน คือ แหวนที่ถูกใช้ในระหว่างพิธีวิวาห์ในโบสถ์ ซึ่งตัวแหวนจะเน้นความเรียบง่ายและมักใส่คู่กันกับแหวนหมั้น เลือกแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานอย่างไรจึงจะใช่ที่สุด ปัจจุบัน ‘แหวนเพชร’ ในรูปแบบของแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานมีให้เลือกอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ บางคนอาจเลือกแหวนแต่งงานหรือแหวนหมั้นเป็นอัญมณีอื่นๆ เช่น ทับทิม และไพลิน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อเป็นหลัก โดยต่อจากนี้ไป เราขอพาคุณมาเจาะลึกถึงวิธีเลือกแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานที่ควรรู้ เพื่อให้ได้แหวนวงที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณ องค์ประกอบของแหวน แหวนประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก คือ เพชรและตัวเรือนแหวน แม้คุณจะมีรูปแบบแหวนที่ต้องการอยู่ในใจแล้ว แต่การเลือกแหวนที่สามารถเข้ากับเพชรได้ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เราจึงควรพิจารณาองค์ประกอบทั้ง 2 ส่วนนี้ควบคู่กันไป เพชรบนแหวน เนื่องจากเพชรมีความทนทานและแข็งแกร่งที่สุดในโลก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่แหวนเพชรได้รับความนิยมนำมาใช้เป็นแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานตามความเชื่อนับจากอดีตจนทุกวันนี้ โดยเพชรบนตัวเรือนแหวนแบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่ เพชรเม็ดกลาง ซึ่งเป็นเพชรขนาดใหญ่ที่สุดบนตัวเรือนแหวน เพชรประกอบตัวเรือน ซึ่งเป็นเพชรขนาดเล็กที่อยู่ล้อมรอบเพชรเม็ดกลาง หลักการเลือกเพชร 4Cs คุณสามารถใช้วิธีเลือกเพชร 4Cs ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ซึ่งพิจารณาปัจจัยสำคัญอันได้แก่ Cut (การเจียระไน), Colour (สี, น้ำ), Clarity (ความสะอาด) และ Carat (กะรัต) เพื่อช่วยในการตามหาเพชรที่ดีที่สุดสำหรับแหวนแต่งงานของคุณ เจมส์ พาวิลเลี่ยน เข้าใจดีว่าลูกค้าบางคนเกิดความสับสน เมื่อพูดถึงหลักการ 4Cs ดังนั้น เราจึงขออธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ โดยแนะนำว่าควรพิจารณาจากสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าก่อนจะง่ายที่สุด ดังนี้ กะรัต เลือกน้ำหนักของเพชรก่อนอันดับแรก เพราะคนเราชื่นชมกับความใหญ่ของเพชรเป็นอันดับหนึ่งเพราะมองเห็นง่ายที่สุด และเมื่อเป็นแหวนหมั้น คนมักจะถามว่าน้ำหนักเท่าไร สี กำหนดว่าเพชรที่ต้องการมีค่าความขาวในระดับใด ปัจจัยที่สองที่คนมักจะมองเห็นง่าย คือขาวแค่ไหน อมเหลืองหรือไม่ การเจียระไน ดูว่าเพชรเม็ดนั้นมีการเจียระไนที่ได้คุณภาพหรือไม่ คนส่วนใหญ่มักเปรียบเทียบได้ ถ้าวางเพชรที่มีคุณภาพการเจียระไนที่แตกต่างกัน ความสะอาด ตำหนิที่อยู่ภายในเพชรอยู่ในระดับที่รับได้แค่ไหน เพราะมักจะเป็นตำหนิที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แหวนหมั้นและรูปทรงเพชรที่นิยม หลังจากทราบวิธีการเลือกเพชรไปแล้ว ต่อมาคือรูปแบบของเพชรที่คุณสามารถเลือกประดับคู่กับตัวเรือนแหวนหมั้น ว่าเพชรรูปทรงใดเหมาะกับการใช้กับแหวนหมั้น นี่คือรูรูปแบบเพชรที่นิยมใช้ในแหวนหมั้น อันดับ 1 เพชรทรงกลม (Round/ Brilliant Cut Diamond) แหวนหมั้นกว่า 95% ที่อยู่ในตลาดล้วนประดับมาพร้อมกับเพชรรูปทรงกลม ที่สามารถส่องประกายแวววาวได้อย่างโดดเด่น และมีความหมายที่สื่อถึงความรักใคร่กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียว นี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้เพชรกลมได้รับความนิยมสูงสุดมาโดยตลอด อันดับ 2 เพชรทรงรูปไข่ (Oval Shaped Diamond) เนื่องจากเป็นเพชรที่มีรูปทรงยาวจึงทำให้ดูมีขนาดใหญ่กว่าเพชรรูปทรงอื่นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเรียบหรูและลุคที่ดูอลังการ อันดับ 3 เพชรทรงหัวใจ (Heart Shaped Diamond) เพชรทรงนี้พิเศษตรงที่สามารถส่องประกายไฟได้เป็นอย่างดี และมีรูปทรงหัวใจสื่อถึงความรักอันมั่นคงระหว่างคนสองคน จึงทำให้เพชทรงหัวใจได้รับความนิยมอันดับ 3 รองจากเพชรทรงรูปไข่ นอกจากนี้ ตัวเรือนแหวนทุกวงของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน จะมีกระเปาะที่ออกแบบพิเศษที่มีแรงบันดาลใจมาจากไอคอนของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ทำให้แหวนของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากแบรนด์อื่น และนี่คือสิ่งสำคัญที่เราตั้งใจมอบให้เฉพาะกับลูกค้าของเรา ตัวเรือนแหวน องค์ประกอบที่สองที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกแหวนวงสำคัญของคุณ คือตัวเรือนแหวน ที่สะท้อนรสนิยมของผู้สวมใส่ และยังส่งผลต่อราคาแหวนวงนั้นอีกด้วย โดยลักษณะตัวเรือนที่นำมาใช้เป็นแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานยอดนิยม ได้แก่ ทองคำ (Gold) โดยปกติแหวนที่มีตัวเรือนทำจากทองคำ 18k ผลิตขึ้นจากการนำทอง 75% มาผสมกับอัลลอยด์ จนมีลักษณะเป็นแหวนสีทองอร่ามที่มอบความสวยงามในสไตล์คลาสสิก และคงความนิยมมาอย่างยาวนาน ส่วนทอง 99.99% นั้นจะไม่ได้นำมาใช้ทำเครื่องประดับและตัวเรือนต่างๆเนื่องจากมีความนิ่มเกินไปและอาจทำให้เพชรหลุดร่วงได้ ถ้าเป็นเพชรสี D, E, F, G จะไม่แนะนำให้ใช้ตัวเรือนทองคำ เนื่องจากเพชรจะไม่ได้โชว์ความขาวออกมาชัดเจนนักเพราะจะสะท้อนสีทองคำออกมาด้วย ทองคำขาว (White gold) ตัวเรือนทองคำขาว หรือ ไวท์โกลด์ โดดเด่นด้านความคงทนและส่องประกายแวววาวคล้ายกับแพลทินัม แต่มีราคาถูกกว่า จึงเป็นตัวเรือนแหวนที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยทองคำขาวผลิตขึ้นจากการนำทอง 18K ที่มีทองคำ 75% มาผสมกับอัลลอยด์เพื่อเพิ่มความขาว และชุบขาวให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น อีกทั้งราคาถูกกว่าแพลทินัม พิงค์โกลด์ (Pink Gold) พิงค์โกลด์ เกิดจากทองคำ 18K มาผสมกับอัลลอยด์ที่มีสีออกทองแดง โดยสีพิงค์โกลด์ของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน จะเป็นสีชมพูอมส้มมอบความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะเราทำการคัดเลือกพิงค์โกลด์เพียงสีเดียวจากทั้งหมด 17 เฉดสี เพื่อนำมาใช้กับเครื่องประดับของเราทุกชิ้น แพลทินัม (Platinum) โลหะที่มีความทนทานที่สุดซึ่งปราศจากส่วนผสมของทองคำ และยังไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายผิวแก่ผู้สวมใส่ ด้วยจุดเด่นเหล่านี้ทำให้แพลทินัมเป็นตัวเรือนที่มีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะที่ เจมส์ พาวิลเลี่ยน เราเลือกใช้ PT950 คือแพลทินัม 950 ส่วนจาก 1,000 ส่วน เหตุผลที่ทำให้แพลทินัมแพงกว่าทองชนิดอื่น น้ำหนักมากกว่าประมาณ 30%