“เพชรคือสิ่งที่มีค่าที่สุด และไม่ใช่เฉพาะแค่ในหมู่อัญมณีเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงทุกสิ่งในโลกใบนี้”
พลินี, นักธรรมชาติวิทยาชาวโรมัน
การเลือกซื้อเพชรครั้งแรกในชีวิตเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับเราทุกคนเสมอ เนื่องจากคุณต้องใช้ทั้งเหตุผลและอารมณ์ความรู้สึกเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สร้างประสบการณ์ชวนปวดหัวจนคุณแทบไปต่อไม่ถูก และทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า “แล้วฉันจะเลือกเพชรที่ใช่ได้อย่างไร?”
การเลือกเพชรที่สมบูรณ์พร้อมนั้นเป็นเรื่องยากและมีหลายสิ่งให้พิจารณา โดยเฉพาะเวลาที่คุณกำลังมองหาแหวนเพชรแท้ หรือสร้อยเพชร ต้องคำนึงถึงรายละเอียดยิบย่อยมากมาย ตั้งแต่รูปทรง ขนาด และสี แน่นอนว่าที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นตัวการทำให้คุณเกิดความสับสนและเครียดขึ้นมาทันที
นี่เองคือเหตุผลที่ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ก้าวเข้ามาเพื่อช่วยเหลือคุณ ด้วยการมอบคำแนะนำวิธีเลือกเพชรที่ดีที่สุด โดยใช้หลักการ 4Cs และเคล็ดลับที่คนมักไม่ทราบ ซึ่งจะช่วยตามหาเพชรเม็ดงามที่ใช่สำหรับคุณและคนที่คุณรัก
เพชรในฐานะตัวแทนแห่งความรัก
ก่อนเราจะเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกเพชรที่ใช่ อันดับแรกมาไขข้อสงสัยในความเชื่อที่ว่าเพชรกลายมาเป็นตัวแทนแห่งความรักในปัจจุบันได้อย่างไร
ย้อนกลับไปหลายพันปีก่อนชาวโรมันและชาวกรีกโบราณเชื่อว่า เพชรคือน้ำตาของเทพเจ้า หรือเศษเสี้ยวจากดวงดาวที่ตกมาจากฟากฟ้า นอกจากนี้พวกเขายังเห็นว่าคิวปิด (Cupid) ใช้ลูกศรที่มีหัวทำจากเพชร ที่เมื่อศรปักโดนเข้าที่ชายหญิงคู่ใดแล้วก็จะเกิดความรักอันหอมหวาน ดังสองสิ่งที่จะอยู่คู่กับคุณไปตลอดกาล คือ ผู้ชายที่คุณรักและแหวนเพชรแต่งงาน
นับแต่นั้นมา เพชรได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก ขณะเดียวกัน ยังใช้เพื่อสื่อถึงความรัก ความขอบคุณ และการให้ความสำคัญ มายาวนานหลายทศวรรษ
วิธีเลือกเพชรให้ตรงใจด้วยหลักการ 4Cs
เมื่อใดที่คุณกำลังมองหาต่างหูเพชรแท้คู่ใหม่ หรือสร้อยข้อมือเพชรแท้สำหรับใส่ออกงาน ปัญหาสำคัญที่สุดคือไม่รู้ว่าจะเลือกเพชรอย่างไร ด้วยเหตุนี้เราจึงขอนำเสนอหลักการเลือกเพชร 4Cs ในแบบฉบับของ Gems Pavilion ที่ใส่ใจในรายละเอียดสูงสุดทุกขั้นตอน ได้แก่
- Carat กะรัต
- Colour สี
- Cut การเจียระไน
- Clarity ความสะอาดหรือตำหนิ
เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถเลือกเพชรที่สมบูรณ์แบบได้ตามความต้องการที่แท้จริง เราจะมาเจาะลึกในทุกรายละเอียดของหลักการ 4Cs ซึ่งเป็นวิธีเลือกเพชรมาตรฐานที่ช่วยให้คุณตามหาเพชรที่ดีที่สุดได้ง่ายยิ่งขึ้น
1. Carat หรือ กะรัต
บ่อยครั้งเวลาที่มีคนพูดถึง ‘กะรัต’ (ตัวย่อ ct) พวกเขามักคิดว่านั่นคือหน่วยที่ใช้วัดขนาดของเพชร ทว่าความจริงแล้วคือหน่วยที่ใช้วัดน้ำหนักของเพชรต่างหาก โดยใน 1 กะรัต สามารถแบ่งได้เป็น 100 หน่วยย่อย ซึ่งคนไทยเรียกหน่วยนี้อย่างติดปากว่า ‘ตัง’ หรือ Point นั่นเอง
โดยเครื่องประดับอย่าง จี้เพชรแท้ ที่ผู้หญิงหลายคนนิยมสวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือ เข็มกลัดเพชร ที่นิยมนำไปประดับแนบอยู่กับชุดเดรสแสนหรูนั้น เป็นจิวเวอรี่อีกประเภทที่หลายคนใส่ใจในการเลือกน้ำหนักกะรัตให้ตรงตามความต้องการมากที่สุด
เจมส์ พาวิลเลี่ยน แนะนำให้เลือกเพชรที่เผื่อน้ำหนักมากกว่าที่คิดไว้สักเล็กน้อย เช่น ถ้าต้องการซื้อเพชร 1 กะรัต ไม่ควรเลือก 1.00 หรือ 1 กะรัตต้นๆ ควรเลือกน้ำหนักเพชรเผื่อไว้ตั้งแต่ 1.1-1.49 กะรัต ซึ่งยังอยู่ในช่วงราคาของเพชร 1 กะรัต ควบคู่กับการเผื่อน้ำหนักเพชรไว้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ จนต้องเจียระไนเพชรใหม่อีกครั้ง และยังสามารถรักษาคุณค่าของเพชรในช่วงน้ำหนักนั้นๆ
2. Colour หรือ สี, น้ำ, เปอร์เซ็นต์
คุณอาจเคยได้ยินมาบ้างว่าเพชรยิ่งขาวเท่าไรก็ยิ่งมีมูลค่าสูง ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวล้วนเป็นความจริงมิอาจมีข้อโต้แย้งใดๆ โดยวิธีเลือกเพชรตามปกตินั้นสามารถแบ่งสีเพชรไล่ระดับจาก D ถึง Z เริ่มที่ Colourless ไปจนถึง Light yellow ในวงการเพชรเรียกเพชรระดับ D หรือ Colorless ว่า ‘น้ำ 100’ และเรียกชื่อลดหลั่นตามตัวเลขลงมาเรื่อยๆ
ระดับการแบ่งสีของเพชรมีดังต่อไปนี้
Colourless | D E F |
Near Colourless | G H I J |
Faint Yellow | K L M |
Very Light Yellow | N O P Q R |
Light Yellow | S T U V W X YZ |
การเปรียบเทียบสีเพชรต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหรือเครื่องมือพิเศษ เนื่องจากสายตาคนทั่วไปไม่สามารถแยกสีเพชรที่ใกล้เคียงกันด้วยตาเปล่าได้ นอกจากนี้ เพชรบางเม็ดอาจดูขาวกว่าปกติเพราะเคลือบด้วยฟลูออเรสเซนต์ แต่ต้องแลกมาด้วยความใสที่น้อยลง และแสงระยิบระยับที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ตามปกติ เจมส์ พาวิลเลี่ยน จะคัดสรรเฉพาะเพชรที่ปราศจากฟลูออเรสเซนต์ เพื่อโชว์ความสวยงามของเพชรให้เป็นธรรมชาติที่สุด
สำหรับคนที่กำลังมองหาเพชรเกรดพรีเมียมอยู่ เจมส์ พาวิลเลี่ยน มีเกรดสีเพชรให้ลูกค้าเลือกตั้งแต่ระดับ D – I ซึ่งจัดเป็นเพชรคุณภาพสูงที่นิยมใช้กับเครื่องประดับไฟน์จิวเวลรี่เท่านั้น
โดย เจมส์ พาวิลเลี่ยน จะมีการคัดเลือกสีเพชรที่ละเอียดมากกว่าที่ระบุไว้ในใบเซอร์ ถ้าสีเพชรระดับ G จะแบ่งเป็น G+, G และ G- และเราจะไม่เลือกสี G- หรือแม้แต่เพชรขาวที่ติดสีน้ำตาล และสีเขียวมาใช้ทำเครื่องประดับ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้มีระบุไว้ในใบเซอร์ของ GIA แต่อย่างใด
3. Cut หรือ การเจียระไน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญของวิธีเลือกเพชร อย่างการเจียระไน คือสิ่งที่ต้องคำนึงเป็นพิเศษ เนื่องจากส่งผลต่อความงดงามของเพชรเม็ดนั้นโดยตรง โดยการเจียระไนเพชรที่ดีจะต้องแสดงให้เห็นสัดส่วนเพชรที่ได้มาตรฐาน อาทิ ความลึก, ความกว้าง, รูปทรงของหน้าเจียระไน และความสมมาตร
อาจกล่าวได้ว่า การเจียระไนเป็นหนึ่งในกระบวนการที่มนุษย์สามารถเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกเพชรที่ผ่านขั้นตอนการเจียระไนชั้นยอด โดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ที่ตั้งใจคัดสรรเพชรทุกเม็ดด้วยมาตรฐานสูงสุด
สำหรับเพชรที่มีคุณสมบัติถูกต้องได้สัดส่วน (Ideal Cut Diamond) จะสามารถกระจายและสะท้อนแสงได้โดดเด่น พร้อมส่องประกายแวววาวสะดุดตาเป็นอย่างมาก เพชรที่มีการเจียระไนได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยส่องด้านบนเห็นแสงสะท้อน 8 แฉก คล้ายกับหัวลูกศร และส่องจากด้านล่างเห็นเป็นรูปหัวใจ หรือ Heart and Arrow เพื่อเป็นการสื่อความหมายถึงความรักและลูกศรของคิวปิดอีกด้วย
ซึ่งหากแบ่งเกณฑ์การวัดตามมาตรฐานของ GIA จะมี 5 ระดับ ไล่จากสูงลงหาต่ำ ได้แก่
- Excellent (EX)
- Very Good (VG)
- Good (G)
- Fair (F)
- Poor (P)
กรณีที่ลูกค้าสนใจเพชรกลม เจมส์ พาวิลเลี่ยน จะเลือกใช้แต่เพชรระดับ 3 Excellent ที่เหนือกว่า 3 Excellent โดยทั่วไปตามมาตรฐานเจมส์ พาวิลเลี่ยนเท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับเพชรที่มีความสวยงามและคุณภาพสูงสุด
4. Clarity หรือ ความสะอาด, ตำหนิ
เพชรส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติอาจมีตำหนิภายใน นั่นหมายความว่าเพชรที่มีมลทินน้อยหรือไม่มีตำหนิเลย จะยิ่งหาได้ยากและมูลค่าสูงมาก ความสะอาดของเพชรจึงถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์สำคัญสำหรับวิธีเลือกเพชรเช่นเดียวกัน
โดยเราสามารถแบ่งระดับจากตำหนิที่พบได้ในเพชรเม็ดนั้นๆ ซึ่งผู้ผลิตเครื่องประดับหลายแห่งนิยมอิงตามมาตรฐานที่ทาง GIA แบ่งระดับไว้ ดังนี้
- FL (ไร้ที่ติ) ไม่มีตำหนิทั้งภายในและภายนอก
- IF ไม่มีตำหนิภายใน แต่ภายนอกมีร่องรอยจากการเจียระไน
- VVS1
- VVS2
- VS1
- VS2
- SI1
- SI2
- I1
- I2
โดยปกติแล้ว เจมส์ พาวิลเลี่ยน จะเลือกใช้เพชรระดับ VS2 ขึ้นไปที่ไม่มีตำหนิดำ และในกรณีของเพชรระดับ VS2 หรือสูงกว่าจะไม่สามารถมองเห็นตำหนิได้ด้วยตาเปล่า
นอกจากนี้ ใบเซอร์ของ GIA บอกความสะอาดเพียงด้านบนและด้านล่าง ทว่าไม่ได้ระบุความสะอาดของมุมด้านข้าง รวมไปถึงเพชรที่มีตำหนิดำ (black inclusion) แต่เราพิจารณาถึงความสะอาดด้านข้างของเพชรด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับเพชรที่สวยที่สุด ตามมาตรฐานของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน
ยังมีเรื่องที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนก็คือ การซื้อเพชรระดับสูงสุดอย่าง FL ที่มีราคาส่วนต่างกับเพชรระดับ IF ไม่มากนัก สำหรับคนที่มีทุนทรัพย์และมองถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ก็นับว่าเหมาะอย่างยิ่งที่จะเพิ่มเงินเพื่อซื้อเพชรคุณภาพเยี่ยมมาครอบครอง
ใบรับรองเพชร (ใบเซอร์) คืออะไร ทำไมต้องมี?
ใครๆ ต่างพูดกันว่าเพชรที่ดีต้องมีใบรับรองคุณภาพ โดยที่เราได้ยินติดหูมากที่สุดก็คือ ‘ใบเซอร์เพชร GIA’ ว่าแต่ GIA คืออะไร? ทำไมผู้คนถึงให้ความเชื่อใจในเพชรที่ผ่านการรับรองจากที่นี่ วันนี้เราจะมาอธิบายให้คุณเข้าใจในทุกข้อสงสัยเอง
ใบเซอร์เพชร = เอกสารที่การันตีว่าเราได้ในสิ่งที่เราจ่ายจริงๆ
คุณเข้าใจถูกแล้วล่ะว่า ‘ใบเซอร์เพชร’ ก็คือเอกสารที่ระบุข้อมูลสำคัญแบบละเอียดของเพชรแต่ละเม็ด เริ่มจากกะรัต สี ความใส และคุณภาพการเจียระไน ซึ่งในวงการเพชรมีสถาบันอัญมณีสากลอยู่ไม่กี่แห่ง แต่ชื่อที่คุ้นหูคนไทยและทั่วโลกมากที่สุดคงไม่มีสิ่งอื่นนอกจาก ‘GIA’ ซึ่งถูกนับเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในหลักวิธีเลือกเพชรยุคปัจจุบัน
GIA (Gemological Institute of America) คือ สถาบันการศึกษาด้านอัญมณีจากสหรัฐอเมริกา โดยสถาบันแห่งนี้ได้สร้างมาตรฐานสำหรับการประเมินคุณภาพเพชร และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือระบบการประเมินสีของเพชร ที่แบ่งระดับสีด้วยการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเริ่มจาก D-Z นั่นทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าใจได้ง่ายเมื่อต้องการหาเพชรที่ใช่สำหรับตัวเอง
นอกจากใบเซอร์เพชรของ GIA ที่ผู้คนให้การยอมรับ ยังมีสถาบันอื่นๆ อีก เช่น AGS (American Gem Society) และ HRD (Hoge Raad voor Diamant) เป็นต้น
แต่สำหรับ เจมส์ พาวิลเลี่ยน เราเลือกใช้เพชรที่ผ่านการรับรองจาก GIA เท่านั้น เพราะเป็นมาตรฐานสูงสุดในเรื่องของเพชร และทำให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจเมื่อซื้อเพชรและเครื่องประดับจากเรา
เจมส์ พาวิลเลี่ยน มีมาตรฐานการคัดเลือกเพชรสูงกว่าที่ระบุไว้ในใบเซอร์ของ GIA
ถึงแม้ GIA จะสร้างมาตรฐานสูงสุดสำหรับการตรวจสอบเพชร จนได้รับความเชื่อมั่นจากบรรดาผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเพชรทั่วโลก ทว่า เจมส์ พาวิลเลี่ยน มีความภาคภูมิใจที่ได้กำหนดมาตรฐานพิเศษเพิ่มขึ้นมา ซึ่งมีความละเอียดเหนือกว่า GIA โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- เราระบุตำหนิที่อยู่บนเพชรว่าเป็นสีดำหรือสีขาว แต่ GIA ไม่ได้ระบุไว้
- เราระบุตำแหน่งของตำหนิที่อยู่ด้านข้างเพชร ซึ่ง GIA บอกแค่ด้านหน้ากับด้านหลัง
- เราอธิบายว่าเพชรแต่ละเม็ดมีลักษณะความใสของเนื้อเพชรเป็นอย่างไร
- เราเลือกเฉพาะเพชรที่ไม่เจือสีเขียว น้ำตาล หรือสีอื่นๆ ยกเว้นสีติดเหลืองที่เป็นธรรมดาของเพชรขาว (เพชรสีแฟนซีไม่ได้นำมาพิจารณาในหลักเกณฑ์นี้)
- เราจะมีการคัดเลือกสีเพชรที่ละเอียดมากกว่าที่ระบุไว้ในใบเซอร์ ถ้าสีเพชรระดับ G จะแบ่งเป็น G+, G และ G- และเราจะไม่เลือกสี G- มาใช้
- เราจะคัดเลือกความสะอาดของเพชรที่ละเอียด เช่น ความสะอาดจะมีแบ่งเป็น VVS, VVS+, VVS- ซึ่งเราจะไม่เลือกใช้เพชรที่ความสะอาดติดลบ
ซื้อเครื่องประดับเพชรจากที่ไหนถึงเหมาะกับคุณที่สุด?
เราแนะนำให้ซื้อจากบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชรชั้นนำที่เชื่อถือได้ เพราะบริษัทเหล่านี้มีกระบวนการคัดคุณภาพเพชร ออกแบบ ผลิต และตรวจสอบขั้นสุดท้ายในสถานที่เดียวกัน ซึ่งสามารถควบคุมคุณภาพไว้ได้ทั้งหมด จนกระทั่งเป็นเครื่องประดับชิ้นงามที่ส่งมอบถึงมือลูกค้าได้อย่างมั่นใจ
ยิ่งไปกว่านั้น คุณจะได้รับคำปรึกษาตั้งแต่การเลือกซื้อเพชร ที่ตรงตามความต้องการและงบประมาณของคุณ อีกทั้งได้เพชรที่สวยที่สุดในราคาที่ดีที่สุดจากหลายแหล่งทั่วโลก ขณะเดียวกัน ร้านเพชรชั้นนำยังมีรูปแบบเครื่องประดับเพชรให้เลือกหลากหลายสไตล์ หรือจะสร้างสรรค์แบบใหม่ๆ ก็ได้ตามที่คุณต้องการ ภายใต้การออกแบบโดยทีมดีไซเนอร์ชั้นนำของไทยทุกชิ้น
เมื่อการออกแบบเสร็จเรียบร้อยก็จะถูกส่งต่อมายังช่างฝีมือ ที่สามารถรังสรรค์เครื่องประดับให้ออกมาสวยงาม ควบคู่การคัดสรรเพชรและอัญมณีต่างๆ ซึ่งมีคุณภาพสูง ที่ทำให้มั่นใจว่าคุณจะได้เครื่องประดับเพชรที่สวยงามที่สุด และไว้วางใจได้ตลอดไป
นอกจากนั้น เจมส์ พาวิลเลี่ยน ยังมีใบอ้งอิงของบริษัท อีกทั้งมีเลเซอร์โลโก้ของแบรนด์เพื่อรับรองมาตรฐานและพร้อมที่จะให้บริการหลังการขายไปได้ตลอด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้เพชรที่เหมาะกับคุณ
การซื้อเพชรเพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่คนที่คุณรักและตัวคุณเอง ไปจนถึงการเลือกแหวนหมั้นหรือแหวนแถวเพชร เพื่อวันพิเศษของชีวิตเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ด้วยเหตุนี้ การรับฟังคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญจากร้านเพชรชั้นนำ จึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หากคุณกำลังมองหาร้านเพชรที่มีบริการชั้นเยี่ยม ซึ่งดูแลคุณพร้อมด้วยความจริงใจในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกเพชรที่ถูกต้อง เรามั่นใจว่า เจมส์ พาวิลเลี่ยน คือคำตอบเดียวที่จะช่วยคุณตามหาเพชรเม็ดงามที่ใช่ที่สุด เพียงคุณให้เราได้ทำหน้าที่อันสำคัญเช่นนี้ในทุกขั้นตอน
เหนือสิ่งอื่นใดคือ เจมส์ พาวิลเลี่ยน มี Jewellery advisor ที่คอยให้คำแนะนำวิธีการเลือกเพชรและอัญมณีต่างๆ แก่ลูกค้า ซึ่งช่วยให้คุณได้เครื่องประดับที่งดงามที่สุดภายใต้งบประมาณที่ตั้งไว้ พร้อมเพชรคุณภาพสูงสุดที่เหนือกว่ามาตรฐานของ GIA และบริการหลังการขายที่ยึดมั่นความพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ สามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ เจมส์ พาวิลเลี่ยน บูติค สยามพารากอน โทร +662 129 4400 และเจมส์ พาวิลเลี่ยน บูติค ดิเอ็มโพเรียม โทร +662 664 8606