จากความสำเร็จของคอลเล็กชั่น The Emblem ที่ Gems Pavilion (เจมส์ พาวิลเลี่ยน) สร้างสรรค์ขึ้นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเพื่อฉลองครบรอบปีที่ 22 ของการก่อตั้งแบรนด์ มาในครั้งนี้ ความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของไอคอนโลโก้สัญลักษณ์ประจำจากเจมส์ พาวิลเลี่ยนถูกนำเสนอผ่านเครื่องประดับจิวเวลรี่อีกครั้งในรูปแบบใหม่ที่ได้รับการต่อยอด
มาจากดิ เอ็มเบลม ภายใต้ชื่อคอลเล็กชั่นใหม่The Emblem EXT. (The Emblem Extension – ดิ เอ็มเบลม เอ็กเทนชั่น)

การคงไว้ซึ่งความเป็นไฟน์ จิวเวลรี่ในทุกๆ รายละเอียดที่เริ่มตั้งแต่การออกแบบอันโดดเด่น วัตถุดิบคุณภาพสูง และงานฝีมือสุดประณีต คือสิ่งที่เจมส์ พาวิลเลี่ยนยังคงยึดมั่นและให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าตลอดทั้ง 22 ปีแห่งการสร้างสรรค์ เราเป็นแบรนด์จิวเวลรี่ไทยที่ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนาและแสวงหาความแปลกใหม่น่าสนใจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความงดงามระดับไฟน์ จิวเวลรี่มานำเสนอลูกค้าอยู่เสมอ

จากปรัชญาของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ที่เน้นย้ำให้เห็นถึงการเฉลิมฉลองให้กับทุกวันด้วยเครื่องประดับ Fine Jewellery ระดับมาสเตอร์พีซที่ทีมดีไซน์ของแบรนด์ที่นำทีมโดย คุณหนึ่ง – จนิษฐา ธีรวรชัย ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เจมส์ พาวิลเลี่ยน ผู้ที่รับผิดชอบดูแลการออกแบบและพัฒนาเครื่องประดับจิวเวลรี่ของบริษัทตั้งใจนำเสนอโดยให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนการผลิต เริ่มตั้งแต่ความโดดเด่นในงานออกแบบที่มีเอกลักษณ์พร้อมทั้งเลือกใช้วัตถุดิบที่ผ่านการเฟ้นหาและคัดเลือกอย่างพิถีพิถันก่อนที่จะนำส่งเข้าสู่กรรมวิธีการผลิตที่ละเอียดลออโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญการเพื่อพัฒนาให้ทุกขั้นตอนในการสร้างสรรค์ชิ้นงานทุกชิ้นในคอลเล็กชั่นมีความสมบูรณ์แบบที่สุด

คอลเล็กชั่นดิ เอ็มเบลม เอ็กเทนชั่น ยังคงให้ความสำคัญและเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การเลือกสรรวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม เครื่องประดับทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นแหวนเพชรและต่างหูล้วนแต่นำเอาเพชรทรงมาร์คีส์มาร้อยเรียงประกอบกันเป็นเครื่องประดับอันงดงามดังที่เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วใน ดิ เอ็มเบลม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาที่เน้นการสร้างสรรค์ให้ผู้สวมใส่ได้มีความรู้สึกภูมิใจที่ได้สวมใส่เครื่องประดับระดับ Iconic เพื่อความเป็น Iconic ของผู้สวมใส่เช่นกัน โอกาสพิเศษครั้งนี้ถูกสะท้อนผ่านผลงานการสร้างสรรค์ออกแบบชิ้นงานใหม่ ให้มีความโดดเด่น สวยงามและสะดุดตายามสวมใส่ ทั้งยังมีความสนุกเพิ่มเติมลงบนตัวชิ้นงานมากขึ้นด้วยโดยยังความสวยหรูสุดคลาสสิกไว้ได้อย่างเช่นเดิม เป็นการต่อยอดเพื่อเติมเต็มให้ดิ เอ็มเบลม เป็นดั่งเหมือนคอลเล็กชั่นเครื่องเพชรคู่ใจของหญิงสาวสุดหรูที่ทุกคนต้องมีและรู้สึกหลงรักยามได้สวมใส่

โดยชิ้นงานต่างๆ ในคอลเล็กชั่นนี้เกิดจากการนำเอาเพชรทรงมาร์คีส์ ทรงอัชเชอร์และทรงกลม มาต่อกันจนดูเป็นโลโก้ไอคอนที่มีขนาดที่ลดหลั่นแตกต่างกันไปโดยมีจุดเด่นอยู่ที่ลูกเล่น การจัดวางเรียงเพชรและฟังก์ชั่นของแต่ละชิ้นที่สามารถถอดประกอบเพื่อทำให้การใส่จิวเวลรี่มีความหลากหลายมากขึ้น เช่น ต่างหูเพชรที่สามารถนำ Backing ไปใช้กับต่างหูติดหูคู่อื่นได้หรือแหวนและต่างหูที่ออกแบบจัดวางโดยตั้งใจเล่นกับรูปทรงทันสมัยดูมีมิติยามสวมใส่ในทุกองค์ประกอบของคอลเล็กชั่นนี้มีความโดดเด่นอยู่ที่เพชรทรงมาร์คีส์ซึ่งถือเป็นเพชรทรงที่หาได้ไม่ง่ายนักทำให้แต่ละชิ้นงานต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการคัดสรรวัตถุดิบเพื่อให้ได้เพชรที่ตรงกับความต้องการของทีมดีไซน์ และได้ตามมาตรฐานของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ก่อนจะนำมาเข้าขั้นตอนการผลิตอันพิถีพิถันในทุกขั้นตอนที่แม้จะดูเป็นชิ้นงานที่เรียบแต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ต้องอาศัยประสบการณ์การทำงานของช่างฝีมือที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาโดยตลอด

จิวเวลรี่ทุกชิ้นในคอลเล็กชั่น The Emblem ยังคงเน้นย้ำถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้เป็นอย่างดีโดยแสดงให้เห็นถึงความน่าสนใจในงานดีไซน์ที่เป็นต้นแบบจิวเวลรี่เทรนด์และเป็นเอกลักษณ์ของ เจมส์ พาวิลเลี่ยน ซึ่งต้องใช้เวลาในการคัดสรรวัตถุดิบและผ่านการสร้างสรรค์จากช่างฝีมือผู้ชำนาญการเพื่อสร้างผลงานเครื่องประดับทุกชิ้นให้สมบูรณ์แบบที่สุดและตอบรับกับความเป็นเครื่องประดับระดับตำนานเพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกวันพิเศษของผู้สวมใส่ได้ตลอดไป ร่วมสัมผัสเครื่องประดับระดับไอคอนแห่งความภาคภูมิใจไปกับแบรนด์จิวเวลรี่ไทยอย่าง เจมส์ พาวิลเลี่ยน ได้แล้ววันนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น